วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Chihuahua Part 12 (สัมภาษณ์ฟาร์มชิวาวา)



สัมภาษณ์ข้อมูลชิวาวา จากลูกชายเจ้าของฟาร์มชิวาวา เพราะรัก 




Q: มาตารฐานของชิวาวาที่ดีเป็นอย่างไร?
A: สำหรับมาตรฐานที่ดีของชิวาวานะครับ หนึ่ง จะดูที่หัว หัวจะเป็นทรงแอปเปิ้ลนะครับ
ส่วนหู ก็จะต้องกางเหมือนค้างคาว ความห่างของหูนะครับจะยาวประมาณ 45 องศา
ลำตัวของน้องจะไม่ยาวจนเกินไป ส่วนหางจะยาวพอดี ไม่ม้วนงอ

Q:ความนิยมของผู้เลี้ยงชิวาวาในปัจจุบันเป็นยังไง?
A:สำหรับในปัจจุบัน คนจะนิยมเลี้ยงชิวาวา หน้ากุดๆ ส่วนตัวจะเป็นตัวเล็กๆจะเป็นไซส์ทีคัพนะครับ
ซึ่งไซส์ทีคัพนี่จะไม่ได้มาตรฐาน

Q:ทำไมชิวาวาทีคัพจึงเป็นไซส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน?
A:ก็เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมนะครับ เกิดจากการนำพ่อที่ตัวเล็กกับแม่ที่ตัวเล็กมาผสมพันธุ์กัน
จึงได้ลูกชิวาวาที่ตัวเล็กๆนะครับ จึงทำให้ลูกไม่แข็งแรง เป็นโรคง่าย และก็เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดได้ง่ายนะครับ และก็อาจช็อคได้ง่ายด้วยครับ

Q: หมายความว่าไม่ควรเลี้ยงชิวาวาไซส์ทีคัพ?
A: ก็เลี้ยงได้นะครับ แต่ต้องมีเวลาน้องอย่างใกล้ชิด และก็หมั่นดูแลน้องนะครับ เปลี่ยนอาหารให้น้องบ่อยๆ
ทำความสะอาดพ้นให้น้องบ่อยๆ ให้น้ำตาล น้ำหวานน้องบ่อยๆ เพื่อเติระดับน้ำตาลในเลือดให้น้อง

Q: ราคาของชิวาวาในปัจจุบัน?
A: ราคาของชิวาวานะครับ ก็จะมีขนสั้น ขนยาว ขนยาวจะราคาแพงกว่าขนสั้น และก็จะดูเรื่องเกรดนะครับ
เกรดก็จะมีสามเกรดนะครับ เกรดที่หนึ่งนะครับก็จะเป็นเกรดเลี้ยงเล่นนะครับ ส่วนเกรดที่สองก็จะเป็นเกรดโชว์นะครับ เกรดที่สามก็จะเป็นเกรดประกวด เกรดเลี้ยงเล่นนะครับ จะเป็นเกรดที่ราคาถูกที่สุด ส่วนเกรดโชว์และเกรดประกวด จะค่อนข้างราคาแพง ชิวาวาที่นำเข้ามานะครับ จากต่างประเทศ ก็จะมีราคาที่สูงกว่านะครับ ซึ่งราคาจะอยู่ที่เริ่มต้นประมาณ เจ็ดหมี่นถึงหนึ่งแสนบาทครับ

Q: ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศอะไรบ้าง?
A: ก็จะมี ญี่ปุ่ นไต้หวั้น และก็อเมริกาครับ

Q: สีขนของชิวาวามีสีใดบ้าง?
A: สีของชิวาวานะครับก็จะมีหลากหลายสี อย่างเช่น สีขาว สีครีม สีบลู สีแบล็คแทน 
สีเมอร์เร่นะครับ แล้วก็สีช็อคนะครับ

Q: สีไหนที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุดและราคาสูงที่สุด?
A: ครับ สำหรับสีที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบันนะครับ ก็จะมีสีช็อค กับ สีแบล็คแทนนะครับ ส่วนสีที่ค่อนข้างราคาแพง ก็จะมีสีบลูและสีเมอร์เร่นะครับ ซึ่งเป็นสีที่ค่อนข้างหายากนะครับ ราคาจึงแพงนะครับ

Q: ใบเพ็ดมีความสำคัญอย่างไรกับการเลี้ยงชิวาวา?
A: สำหรับใบเพ็ดนะครับ ก็เปรียบเสมือนใบเกิดของคน บ่งบอกถึงคุณพ่อคุณแม่ว่าเป็นใคร มาจากไหน ได้แชมป์จากการประกวดที่ไหนหรือเปล่า ว่าเป็นสายพันธุ์แท้ไหมอะไรแบบนี้อ่ะครับ สำหรับคนที่เลี้ยงเล่นใบเพ็ดก็เปรียบเหมือนกระดาษใบหนึ่งอะครับ

Q: ควรให้ชิวาวาทานอาหารแบบใด?
ไม่ควรให้ทานอาหารคนนะครับ ควรให่น้องทางอาหารเม็ดนะครับ เพื่อให้น้องขับถ่ายเป็นก้อน 
และก้ไม่มีคราบน้ำตานะครับ และควรเลือกอาหารที่เหมาะกับน้อง อาจจะค่อนข้างราคาแพงหน่อย 
แต่ดีสำหรับน้อง เรื่องขนเรื่องออะไรแบบนี้อะครับ

Q: วิธีการเลี้ยงดูชิวาวา?
A: การเลี้ยงดูของน้องนะครับ ก็เรื่องวัคซีนควรฉีดให้ครบ เรื่องรักษาความสะอาด ควรรักษาที่ตัวน้องด้วยนะครั บและก็ที่ที่น้องอยู่ อาหารและก็น้ำต้องสะอาด น้ำต้องต้มให้สุกปล่อยให่เย็นถึงให้น้องทานได้
อาหารต้องเป็นอาหารที่สะอาด

Q: อยากฝากอะไรถึงผู้เยี่ยมชมบล็อกบ้าง?
A: ก็อยากฝากถึงทุกคนนะครับ ควรมีรเวลาให้น้อง หมั่นดูแลน้องดีๆ ให้ความรักความเอาใจใส่น้อง 
และก็ควรมรความพร้อมด้วยนะครับ เพราะน้องอยู่กับเราได้สิบถึงยี่สิบปีเลยนะครับ 
ควรจะศึกษาดูแลน้องอย่างดีๆ หาความรู้เรื่องการดูแลน้อง การเลือกซื้ออาหาร 
พฤติกรรมของน้อง นิสัยของน้อง ก็ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อน้องนะครับ




Chihuahua Part 11 (แนะนำฟาร์ม)

หลายๆคนที่กำลังมองหาชิวาวาสักตัวหนึ่งมาเลี้ยง แต่เกิดความกังวล 

กลัวว่าชิวาวาที่รับมาเลี้ยงนั้น จะไม่ใช่ชิวาวาแท้ จะกลายร่างตอนโต

หรือไม่แข็งแรง ดังนั้น บทความนี้ ผมจึงจะแนะนำฟาร์มชิวาวา ที่ผมมีโอกาสได้ศึกษา

ได้มีความใกล้ชิดสนิทสนม จนมั่นใจได้ว่าเป็นฟาร์มชิวาวาที่ปลอดภัยและมีคุณภาพมาแนะนำให้รู้จัก

ได้แก่
1.ฟาร์ม Wowwchihuahua 
2.ฟาร์มเชียงรายชิวาวา
3.ฟาร์ม Chacha chihuahua
4.ฟาร์ม Chi cherish
5.ฟาร์ม Bannsuan Chihuahua
6.ฟาร์ม สุปราณีชิวาวา พะเยา 
7.ฟาร์ม ยูริ ชิวาวา 
8.ฟาร์ม ทิพย์วรรณ แคนเนล
9.ฟาร์ม Good Morning Chihuahua
10.บ้านคุณ Pent_Paint

นอกจาก 10 ฟาร์มเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายฟาร์มมาก ที่เชื่อถือได้
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าก่อนเลือกซื้อ ชิวาวา ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับชิวาวา ศึกษาความพร้อมของตัวเองและคนในครอบครัว
ศึกษาข้อมูลฟาร์มต่างๆ ด้วยนะครับ ขอให้เจอชิวาวาที่คุณรักและถูกใจ

Chihuahua Part 10 (โรคที่พบบ่อย)



สำหรับโรคที่พบได้บ่อย ในสุนัขพันธุ์ชิวาวา ได้แก่ 

Hypoglycemia หรือสภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในลูกสุนัขพันธุ์เล็ก และบ่อยที่สุดในชิวาวา
ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปเมื่อสุนัขโตขึ้น  แต่ก็มีบางตัวที่อาจจะเป็นตลอด
อาการของสภาวะนี้ก็คือ เดินเซไปเซมา ตาค้าง ตัวอ่อน หรือชักเกร็ง
ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจจะทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ และอาจจะตายได้ในที่สุด
วิธีรักษาคือ ให้น้ำหวาน หรือ กลูโคสผงผสมน้ำเปล่าอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่เขาเหนื่อยจัด

 
Hydrocephalus หรือสภาวะสมองบวมน้ำ 
สุนัขที่เป็น hydrocephalus จะมีลักษณะหัวที่ใหญ่ผิดปกติเมื่อเทียบกับขนาดตัว
อาจเป็นผลมาจากยีนผิดปกติ หรือเกิดจากการสะสมของ CSF มากกว่าปกติ
ซึ่งอาจเกิดตั้งแต่ลูกสุนัขยังอยู่ในท้องหรือหลังจากคลอดไม่นาน
 ลูกสุนัขที่มีภาวะสมองบวมน้ำขั้นรุนแรงส่วนมากจะตาย
  ในลูกสุนัขที่มีอาการไม่รุนแรงมากนักอาจจะมีอายุได้มากกว่า 2-3 เดือน 
จะทำให้การเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ 
 อาการอื่นที่พบได้บ่อยๆคือ มีอาการชัก เห็นตาขาวมากกว่าปกติ เดินไม่มั่นคง ตามองไปคนละข้าง 
 ถึงแม้ว่าภาวะสมองบวมน้ำจะทำให้สุนัขส่วนใหญ่ตายตั้งแต่อายุยังน้อย
แต่ก็มีบางตัวที่สามารถอยู่ได้มากกว่า 2 ปี
สุนัขที่มีภาวะสมองบวมน้ำไม่ควรนำมาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์เพราะอาจถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ 
 ในการรักษาโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีน้อยและราคาสูง
 
reverse sneezing
คิออาการ หอบ หายใจดังครืดๆ
หรือ ทำท่าจะอ้อก แต่ไม่มีอะไรออกมา ลูกๆที่บ้านของผมเป็นบ่อยมากจนชิน 
ไม่มีอันตรายใดใด ไม่ต้องกังวล 
จะเกิดอาการเมื่อ ตื่นเต้น มากหรืออากาศเย็น ก็ทำให้เป็นได้
วิธีแก้ไข  คือ
ให้นวดที่คอหอย ให้น้องกลืนน้ำลาย ก็จะดีขึ้น 
 
 
 

Chihuahua Part 9 (วิธีฝึก)

How to training your Chihuahua?



หลายๆคนคงเคยปวดหัว กับ พฤติกรรมต่างๆของเจ้าชิวาวาที่บ้าน

ไม่ว่าจะเป็น ชอบกัด ชอบแทะ ชอบเล่นแรงๆ ขับถ่ายไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง

ไฮเปอร์ ไม่ยอมอยู่นิ่ง พฤติกรรมเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยการ "ฝึกสอน" 

สุนัขก็เหมือนกับเด็ก ที่ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน อยากให้เขาเป็นเช่นไร 

เราควรสอนเขา ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย จนติดเป็นนิสัย ไปจนโต เพราะเมื่อโตแล้ว

เขาจะสอนยากขึ้น เป็นไม้แก่ ที่ไม่สามารถดัดได้ 

การสอนชิวาวา ก็ไม่ต่างจากการสอนเด็ก สิ่งแรกที่ผู้สอน หรือ เจ้าของ พึงมี 

ก็คือ ความอดทน การจะสอนสุนัขนั้น ต้องใช้ความอดทนสูง และ ใจเย็นอย่างมาก

เนื่องจาก ช่วงแรก เขาจะยังฟังคำสั่งของเราไม่รู้เรื่อง ต้องอาศัยการกระทำซ้ำๆ 

เขาจึงจะเข้าใจคำสั่งของเรา  สอนให้นั่ง ขอมือ สอนให้นิ่ง สอนให้รอ ทุกอย่าง

ควรใช้คำสั่นสั้นๆ เพื่อให้เขาเข้าใจง่าย เช่น หยุด ไม่ อย่า รอ นิ่ง นั่ง 

พูดซ้ำๆ ทำซ้ำๆ เขาจะทำได้เอง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถทำได้ภายในวันหรือสองวัน

อย่างการกัดแทะ ถ้าเขากัดแทะตรงไหนบ่อยๆ เป็นที่ที่ไม่พึงประสงค์ ให้โรยพริกไทยเอาไว้

เมื่อเขากัด เขาจะรู้สึกฉุน จนไม่อยากกัดหรือแทะบริเวณนั้นอีกต่อไป

เมื่อเขาทำดี ทำถูกต้องตามที่เราสอน ก็ควรให้รางวัลในทันที

แต่ถ้าเขาทำผิด (ต้องเป็นการทำผิดในขณะที่กำลังทำเท่านั้น) เราอาจตีก้นเขาเบาๆได้

เพื่อสอนให้เขารู้ว่าไม่ควรทำ หลายๆคน มีความเข้าใจผิดๆ ว่าไม่ควรตี 

ซึ่งความจริงแล้ว รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี การตีเขาเบาๆ จะทำให้เขาไม่กล้าทำอีก 

แต่ไม่ใช่ตีแรง จนเขากลัวเราไปเลยนะครับ แค่ตีเบาๆก็พอ หรือ อาจจะใช้น้ำเสียงเข้าช่วย

เวลาที่เขา ทำดี ให้ใช้น้ำเสียงชมที่เป็นมิตร ลูบหัวเขาเบาๆ 

เวลาที่เขา ทำผิด ให้ทำเสียงเข้มดุเขา 

การฝึกเขาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางก็เช่นเดียวกัน ต้องหมั่นสังเกตเขาตลอดเวลา

เวลาที่เขามีพฤติกรรม ดม หรือ ทำจมูกฟุดฟิด นั่นแปลว่าเขากำลังหาที่ขับถ่าย

หรือถ้าโก่งก้นเมื่อไหร ให้รีบอุ้มเขาไปไว้ในที่ที่เราต้องการให้เขาขับถ่ายทันที 

ซึ่งสถานที่ที่จัดไว้ให้เขา ควรเป็นมุมสงบ เพราะชิวาวาชอบขับถ่ายในที่มืดๆ หรือ มุมลับๆ 

ถ้าเขามีการขับถ่ายไม่เป็นที่เมื่อไหร และถ้าเราเห็นจังหวะนั้นพอดี เช่นเดียวกับคำสั่งอื่นๆ

คือให้ตีเขาเบาๆที่ก้น กดหัวเขาลงที่มูล แต่ไม่ต้องโดนนะครับ ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น 

เราอาจจะใช้วิธีนำแผ่นรองฉี่หรืออึ มาซับฉี่ของเขาก็ได้ เพื่อให้มีกลิ่นฉี่ของเขาติดอยู่

เมื่อเขาได้กลิ่น เขาก็จะฉี่ซ้ำที่เดิม เพราะสุนัข ชอบฉี่ทับรอยเดิมของตัวเอง 

ถ้าเขาขับถ่ายเป็นที่ ให้ชมและลูบหัวเขา เหมือนกับคำสั่งอื่นๆเช่นเดียวกัน 







วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

Chihuahua Part 8 (ความแตกต่าง)

Boy or Girl ? 

วันนี้ เราจะมาพูดกัน ถึงความแตกต่าง ระหว่าง  ชิวาวา ตัวผู้ และ ชิวาวา ตัวเมีย

เราลองมาชมภาพของเจ้าชิวาวาทั้งสองเพศกันก่อนดีกว่า เรียงตามลำดับ เพศผู้ เพศเมีย นะครับ 










จากภาพเนี่ย เป็น ชิวาวา เพศผู้ กับ เพศเมีย ซึ่งเ้ป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน ในเวลา

ไล่เลี่ยกัน ดังนั้น ถ้าพูดถึงเรื่องของกายภาพ แทบไม่แตกต่างกันนะครับ

จะแตกต่างกันก็ตรงอวัยวะเพศ เท่านั้นเอง ส่วนเรื่อง ขนาดตัว ความยาวหน้า หู ตา ปาก ฟัน สีขน

อันนั้นเป็นเรื่องของพันธุกรรมมากกว่า 

ถ้าถามว่า นิสัยแตกต่างกันมากไหม? โดยส่วนตัว จากที่เคยเลี้ยงมาทั้งสองเพศ

ผมว่าไม่ต่างกันนะครับ บางคนคิดว่า ชิวาวาตัวผู้จะซนกว่าชิวาวาตัวเมีย ไม่จริงนะครับ!!

ผมขอยืนยัน เพราะเจ้าตัวเมียที่บ้านผม แสบกว่าตัวผู้เยอะเลย 55555555 

เรื่องนิสัย เป็นธรรมดาของหมาเด็กครับ ที่จะซน แต่พอเค้าโต เค้าจะนิ่งมากขึ้น 

ส่วนความแตกต่างในเรื่องการเลี้ยงดู ก็ต่างกันไม่มากครับ 

ชิวาวาตัวผู้ จะผลัดขนแค่ปีละครั้ง ส่วนชิวาวาตัวเมีย จะผลัดขนปีละสองครั้ง ซึ่งการผลัดขน

ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก หากหมั่นกวาดบ้าน หรือ ดูดฝุ่นบ่อยๆ 

แต่ชิวาวาตัวเมีย เค้าจะมีประจำเดือนเหมือนกับคนนี่ล่ะครับ เรียกว่า ฮีท 

จะมีฮีทปีละสองครั้ง เวลาที่เค้าเป็นฮีท เราอาจจะต้องใส่โอบิให้เค้า ถ้าไม่อยากให้มีเลือดหยดที่พื้น

โอบิก็คือกางเกงอนามัย  คล้ายๆผ้าอนามัยนั่นแหล่ะครับ 

ส่วนชิวาวาตัวผู้ ไม่มีฮีท  แต่ในส่วนของเรื่องการฉี่ เมื่อเค้าโต เค้าจะยกขาฉี่

เท่ากับว่า เราต้องฝึกเค้าให้ฉี่เป็นที่ถึงสองครั้งในช่วงชีวิตของเค้า แต่สามารถแก้ไขได้ ด้วยการ

ใส่โอบิ หรือ ใช้ถาดรองฉี่ที่มีผนังก็ได้ 


ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่า เรื่องเพศ ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เลี้ยงมากกว่า ลองถามใจตัวเองดีดี
ว่าชอบเพศไหนมากกว่ากัน ถ้าต้องการให้เค้าตั้งท้องมีลูก ขยายพันธุ์ในอนาคต ก็ต้องตัวเมีย
แต่ถ้าอยากป้องกันเรื่องการมีลูกหลานเพิ่ม ก็ต้องตัวผู้ แต่ไม่ว่าจะตัวผู้หรือตัวเมีย

ผมรับรองได้เลยว่า น่ารักทั้งคู่ ไม่ว่าจะเลี้ยงเพศไหน คุณก็สามารถตกหลุมรักเค้าได้ 

Chihuahua Part 7 (ภาษากาย)

My feeling 



"ถ้าหมาพูดได้ก็คงจะดี"  
ผมเคยได้ยินประโยคข้างต้นจากคนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง ผมเองก็เคยคิดเหมือนกันนะ
ว่าถ้าหมาพูดได้ จะเป็นยังไง อาจจะเลี้ยงง่ายขึ้น อาจจะดูแลง่ายขึ้น อาจจะรีบพาเค้าไปรักษา
ได้ทันเวลา เมื่อเค้าป่วย เพราะเค้าสามารถพูดบอก ตอบโต้กับเราได้...แต่ในความจริง มันเป็นไปไม่ได้
ใช่ไหมล่ะครับ? ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ ก็คือ ศึกษาจากภาษากายนั่นเอง สุนัขทุกตัวจะมีภาษากาย
ที่ตีควา่มได้ในทำนองเดียวกัน เจ้าชิวาวาเองก็เช่นกัน ดังนั้น ใครที่เลี้ยงชิวาวาาอยู่ สามารถอ่าน
แล้วนำไปสังเกตพฤติกรรมของเด็กๆที่บ้านได้ ลองมาดูกันครับ 



1. ทำตาแบ๊ว หูลู่ แสดงว่าทำความผิดมา แล้วขอร้องให้เราให้อภัย

2. นอนหงาย หากเล่นๆกันอยู่ แล้วเด็กๆที่บ้านล้มตัวลงนอนหงาย หมายถึงต้องการให้เกาพุง

3. ยึดตัวเกาะเจ้าของ หมายถึง รักนะเจ้านาย 

4.เลียมือ แสดงว่า เจ้าหมาของเรากำลังเรียกร้องความสนใจ 

5.กระดิกหาง แสดงว่า น้องหมากำลังอารมณ์ดี ประมาณว่า ชวนเล่น 

6.ยืดตัว เป็นท่าทักทายเจ้าของ เค้ากำลังบอกเราว่า สวัสดีครับ/ค่ะ 

7.หางชี้ เป็นอาการตื่นตัว พร้อมสู้

8.หางพับเข้าไปใต้ท้อง แสดงว่า น้องหมากำลังกลัว กังวลใจ หรือกลุ้มใจ 

หรือจะสังเกตจากตาของน้องหมาก็ได้  ยกตัวอย่างเช่น

ตาจ้องเขม็ง พร้อมกับแยกเขี้ยว เกร็งหน้า แสดงว่า น้องหมาอารมณ์ไม่ดี ไม่พอใจ

เบิ่งตาโตกร้าว พร้อมแยกเขี้ยว เป็นอาการพร้อมต่อสู้

ตาเหลือมองบน เป็นอาการหวาดหวั่น ไม่มั่นใจ ไม่คุ้นเคย 

ตาเหลือบมองด้านข้าง คืออาการของน้องหมา ที่ระแวดระวังภัย 

ตาปกติ พร้อมกระดิกหางเล็กน้อย แสดงว่าน้องหมา อารมณ์ดี สดใส 

ตาเบิ่งโตเป็นประกาย อ้าปาก หูชี้ หางแหว่งเป็นกังหัน แสดงว่าน้องหมา กำลังตื่นเต้น ดีใจ 

หรี่ตา หลบหน้า คืออาการของน้องหมา ที่รู้สึกผิด 

ตากระพริบถี่ๆ คืออาการของน้องหมา ที่กำลังเครียด 

หากเราลองสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้เรื่อยๆ เราก็จะคุ้นชิน จนจำได้ ว่าเมื่อน้องหมา
แสดงท่าทางแบบนี้ เค้าต้องการจะบอกอะไรเรา 
เห็นไหมครับ? ไม่เห็นต้องพูดได้เลย แค่เราศึกษาภาษากายของเค้า เราก็จะเข้าใจเค้าได้เอง

อย่าลืมลองนำไปใช้กับเจ้าชิวาวาที่บ้านดูนะค้าบบบ ^^ 

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2558

Chihuahua Part 6 (อาหารต้องห้าม)


I can't eat 






                   สำหรับบทความนี้ ตามที่ให้สัญญาเอาไว้ ว่าเราจะพูดถึง อาหารต้องห้าม สำหรับชิวาวา 
ไม่สิ สำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ หลายๆคน อาจจะเคยเผลอให้อาหารเหล่านี้แก่เด็กๆที่บ้าน
โดยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อาหารเหล่านี้เป็นอาหารต้องห้าม และ ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขอย่างมาก มาเริ่มที่อันดับแรกกันเลยดีกว่า




1. นมวัว อย่างที่เคยพูดไปในบทความก่อนครับ ว่าโมเลกุลของนมวัวจะมีขนาดใหญ่กว่าโมเลกุลของนมจากสุนัข ทำให้สุนัขไม่สามารถย่อยนมวัวได้ และเกิดอาการท้องเสีย
หากเผลอให้สุนัขทาน และสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรให้สุนัขงดอาหาร 6-12 ชม. ป้อนเกลือแร่ และพาไปพบสัตวแพทย์


2.กระดูกสัตว์และก้างปลา หลายๆคนคงคิดว่า สุนัขมีฟันที่แหลมคม สามารถบดกระดูกแข็งๆได้สบาย แต่ความจริงแล้ว เวลาที่ขับถ่ายออกมานั้น เศษกระดูกหรือก้างปลาอาจจะบา่ดกระเพาะหรือรูทวารของน้องหมาได้ ทำให้อุจจาระที่ถ่ายออกมานั้นมีเลือดปน ยิ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กอย่างชิวาวาด้วยแล้ว การให้ทานกระดูก อาจทำให้ติดคอได้
หากเผลอให้สุนัขทาน และสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน 

3.เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เครื่องดื่มเหล่านี้ ขนาดคนดื่มแล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกาย แล้วรับประสาอะไรกับสุนัขล่ะครับ อาจทำให้น้องหมา อาเจียน ท้องเสีย หัวใจเต้นเร็ว หอบ
หากเผลอให้สุนัขทาน และสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรทำให้อาเจียนออกมาให้มากที่สุด ป้อนผงถ่าน และรีบพาไปพบสัตวแพทย์ 

4.ช็อกโกแลต แม้ว่าจะติดอันดับขนมโปรดของคน แต่ก็เป็นอาหารต้องห้ามสำหรับสุนัขอยู่ดี เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสาร  Theobromide ซึ่งถ้าได้รับสารดังกล่าว ในปริมาณ 20 มก.ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. อาจทำให้สุนัข กล้ามเนื้อสั่น ทรงตัวไม่อยู่ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ 
และการทานของหวานมากๆ ยังทำให้น้องหมาของเรากลายเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้ายอีกต่างหาก 
หากเผลอให้สุนัขทาน และสุนัขมีอาการดังกล่าว ควรป้อนผงถ่าน ทำให้อาเจียนมากที่สุด และรีบพาไปพบสัตว์แพทย์ 

5.เครื่องดื่มแอลกฮอล์  ผมว่าคงไม่มีใครให้สุนัขทานเครื่องดื่มแอลกฮอล์หรอกจริงไหมครับ? 
ผมก็ยังสงสัยอยู่นะ ว่าทำไมถึงมีคำเปรียบที่ว่า เมาเหมือนหมา ทั้งๆที่
หมามันเมาเหมือนคนไม่ได้ ซึ่งถ้าหากสุนัขเผลอทานเข้าไป จะทำให้มีอาการ เดินเซ อาเจียน อ่อนแรง ซึม บางรายถึงกับสลบ ควรรีบพาไปพบสัตว์แพทย์โดยด่วน 


6.อาหารสำเร็จรูปของแมว  บางคนเห็นว่า อาหารสำเร็จรูปเหมือนกันคงไม่เป็นไร เป็นความคิดที่ผิดนะครับ! ถึงจะเป็นอาหารสำเร็จรูปเหมือนกัน แต่ถ้าทานร่วมกันได้ เค้าจะผลิตแยกออกมาทำไมล่ะครับ กายภาพของหมากับแมว ระบบร่างกายของหมากับแมว ไม่เหมือนกันครับ ดังนั้น ทั้งหมาและแมวต่างต้องการได้รับสารอาหารที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง หากทานแล้ว อาจทำให้สุนขป่วนเป็นโรคนิ่วไตวายได้  อย่าให้ทานร่วมกันเด็ดขาด 

7.ถั่วแมคคาเดเมีย   ถึงจะเป็นถั่วราคาแพง แต่ก็ใช่ว่าจะดีต่อน้องหมานะครับ ทานเข้าไปแล้ว อาจทำให้น้องหมา ถ่ายเหลวเป็นมูกเลือด อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรงเลยล่ะครับ 
หากเผลอให้สุนัขทาน และ สุนัขมีอาการดังกล่าว ควรทำให้อาเจียนมากที่สุด ป้อนผงถ่าน และ รีบพาไปพบสัตวแพทย์

8.องุ่นและลูกเกด  เนื่องจาก องุ่นหรือลูกเกดมีสาร Raisin  หากทานเข้าไป 15-30 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.แล้ว จะทำให้สุนัข ปวดท้อง เกร็ง ถ่ายเหลว และปัสสาวะลดลง โดยอาการนี้จะแสดงภายหลังจากที่ทานเข้าไปแล้ว 24 ชม. สุดท้ายอาจเกิดอาการไตวายเฉียบพลันได้ 
วิธีช่วยเหลือหากสุนัขเผลอทานและมีอาการดังกล่าว ก็คือ ทำให้อาเจียนมากที่สุด ป้อนผงถ่าน และรีบพาไปพบสัตวแพทย์ 



9.หัวหอมและกระเทียม  ของต้องห้ามชนิดนี้ คงไม่มีใครให้เด็กๆที่บ้านทานหรอก จริงไหมครับ?
แต่ทราบไว้ก็ดีครับ เพื่อที่จะระมัดระวังมากขึ้น เผื่อคุณแม่บ้านคนไหน ทำอาหารด้วยความเพลิดเพลิน จนลืมดูว่ามีเศษหัวหอมหรือกระเทียมหล่นอยู่ที่บ้าน แล้วบังเอิญสุนัขที่บ้านมาทานเข้า จะแย่เอาได้ 
เพราะจะทำให้สุนัข เหงือกซีด เซื่องซึม หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ไตวายเฉียบพลัน 
วิธีช่วยเหลือ คือ ผายปอด และ รีบพาไปหาสัตวแพทย์โดยด่วนที่สุด 


10.ของหมักดอง อาหารชนิดนี้ อันตรายมากๆ แม้ว่าคนทานแล้วจะไม่เป็นอะไรก็ตาม แต่อาจทำให้สุนัขเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน 
อาการของสุนัขที่ทานของหมักดอง จะคล้ายกับสุนัขที่ทานหัวหอมและกระเทียม ดังนั้น วิธีการช่วยเหลือจะเหมือนกันครับ 


ครบแล้วครับ  10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข แต่ว่า ยังมีอาหารต้องห้ามชนิดอื่นอีก
ที่ผมทราบมาจากประสบการณ์ตรง ซึ่งหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบ เพราะข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
ไม่ค่อยมีบอกเอาไว้สักเท่าไหรนัก นั่นก็คือ 





11..กุ้ง ของโปรดผมเลยล่ะครับ  แต่ว่าเป็นของต้องห้ามสำหรับสุนัขเหมือนกัน ถ้าสุนัขเผลอทานเข้าไป แม้ว่าจะเป็นแค่เปลือกกุ้งก็ตาม อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ปากบวมแดง และเสียชีวิตได้เลย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนที่สุด 

12.ตับย่าง หลายๆคนคงคาดไม่ถึงใช่ไหมล่ะครับ? แต่อาหารชนิดนี้ เมื่อให้สุนัขทานแล้ว 
บางตัว ถึงกับอาเจียนเป็นเลือดเลยนะครับ ยิ่งในสุนัขอายุน้อยๆแล้วด้วย ห้ามเด็ดขาดเลยครับ 

13.อาหารคนที่ผ่านการปรุงรสหรือกรรมวิธีต่างๆ อาหารคนไม่ดีต่อร่างกายสุนัขครับ อาจทำให้สุนัขมีกลิ่นปาก ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของสุนัขไม่มีระบบกรองความเค็ม หากให้ทานอาหารที่มีการปรุงรส ด้วยน้ำปลา หรือ ผงชูรสเข้าไปแล้ว อาจทำให้สุนัขป่วยได้ 

หลายๆคงที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ คงจะรู้สึกค้านในใจ เนื่องจากเคยให้สุนัขที่บ้านทานอาหารเหล่านี้
แต่ไม่เกิดอาการใดใด ผมขอยืนยันเลยนะครับ ว่ายังไงอาหารข้างต้นที่ผมได้บอกไปนั้น 
เป็นอาหารต้องห้ามสำหรับสุนัขจริงๆ ส่วนน้อยเท่านั้นที่ทานแล้วไม่เกิดความผิดปกติอะไร
หรือ สุนัขบางตัวทานแล้วไม่เป็นอะไรในตอนแรก แต่อาจส่งผลเมื่อตอนที่เค้าอายุมากขึ้นก็เป็นได้ 

ดังนั้น อาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุนัข ก็คือ อาหารเม็ดครับ 
อย่าใจอ่อนให้อาหารอย่างอื่นตามใจเค้าเด็ดขาด จะทำให้น้องหมาเสียนิสัย และ สุขภาพไม่แข็งแรงด้วย
บางคนขี้สงสาร กลัวน้องหมาเบื่ออาหาร มีวิธีช่วยในเรื่อง เบื่ออาหารได้ครับ นั่นก็คือ
ให้ทาน อกไก่ต้มสุก แต่ไม่ปรุงรสใดใด ในบางมื้อ จะทำให้น้องหมามีความสุขในการทานอาหารมากขึ้น
หรือให้ทาน ขนมทานเล่นสำหรับสุนัขก้ได้ครับ แต่ต้องระมัดระวังนะครับ เพราะสุนัขบางตัว 
แพ้ขนมทานเล่นพวกนี้ เมื่อทานแล้ว อาจทำให้ท้องเสียเรื้อรังได้ ต้องคอยสังเกตอย่างใกล้ชิด 



วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

Chihuahua Part 5 (สิ่งที่ควรทราบ)

What should i know ? 


                   หลายๆคนคงเคยมีอาการตื่นเต้น เวลาที่รับลูกสุนัขสักตัวหนึ่งมาเลี้ยง

เกิดความกังวล ว่าควรทำอะไรเป็นอันดับแรก ควรทำอย่างไร เพื่อให้น้องหมาที่รับมาเลี้ยงนั้น

แข็งแรงและอยู่กับเราไปตลอดรอดฝั่ง ยิ่งสำหรับมือใหม่ด้วยแล้ว เพราะการสูญเสียไม่ใช่เรื่อง

ที่จะทำใจได้ง่าย แม้ว่าสุนัขตัวนั้น จะอยู่กับเรากี่วัน กี่เดือน ก็ตาม 

ดังนั้น ก่อนที่เราจะรับลูกสุนัขมาเลี้ยง เราควรทำการศึกษาให้ดีเสียก่อน 

สิ่งที่ควรทราบเป็นอันดับแรก ก็คือ สุนัขที่พร้อมย้ายบ้าน คือสุนัขที่มีอายุ 2 เดือนหรือ 2 เดือนขึ้นไป

เพราะลูกสุนัขจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันบ้างแล้ว หรือทางที่ดี รับเลี้ยงเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 4 เดือน จะดีที่สุด

เนื่องจาก รูปร่างหน้าตาของลูกสุนัข จะไม่เปลี่ยนไปจากนี้มากนัก ทำให้เราพอคาดเดาได้ว่า

ลูกสุนัขที่เรารับมาเลี้ยงนั้น โตมาจะหน้าตาเป็นอย่างไร ถูกใจ ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่

ป้องกันปัญหาต่างๆที่ตามมา ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่ผมเคยพบเห็นบ่อยๆก็คือ

เมื่อลูกสุนัขโตมา หน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้เลี้ยงไม่ชอบใจ ก็ยกให้คนอื่น แล้วหาตัวใหม่มาเลี้ยงแทน

แต่คงจะลืมกันไปว่า สุนัขก็มีจิตใจ และ มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมาก แม้จะเปลี่ยนเจ้าของ 

หัวใจของเขาจะยังคงนึกถึงแต่เจ้าของคนเดิม บางตัวถึงกับเป็นโรคซึมเศร้าก็มี 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ขายส่วนใหญ่ ก็มักที่จะเร่งขายลูกสุนัขตั้งแต่อายุยังน้อย 

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับลูกสุนัขมากนัก และ เป็นช่วงที่ลูกสุนัขยังดูน่ารักน่าเอ็นดู 

อีกวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ไปชมที่ฟาร์มเองเลยครับ แล้วเลือกเด็กๆที่ถูกใจ เพราะบางครั้ง

การตัดสินใจจากภาพที่เราเห็น อาจไม่เพียงพอ เพราะผู้ขายบางคนได้มีการปรับแต่งภาพมาอย่างดีแล้ว


สิ่งต่อมาที่ควรทราบ ก็คือ ลูกสุนัข ได้ผ่านการถ่ายพยาธิ หรือ ทำวัคซีนมาบ้างแล้วหรือยัง? 

ฟาร์มส่วนใหญ่ จะถ่ายพยาธิ และ ทำวัคซีนให้ลูกสุนัขอย่างน้อยสองเข็ม ก่อนส่งถึงมือเจ้าของใหม่

แต่ถ้าหากรับลูกสุนัขจากที่อื่น ซึ่งไม่ใช่ฟาร์ม เราควรถามคนขายให้แน่ใจเสียก่อน

เพราะการทำวัคซีนให้ลุกสุนัข ถือเป็นการป้องกันโรคต่างๆได้ในระดับหนึ่ง ทางที่ดี

ควรขอสมุดสุขภาพของลูกสุนัขมาเลย เพื่อง่ายต่อการทำวัคซีนในครั้งต่อๆไป 

สำหรับการถ่ายพยาธิและฉีดวัคซีนชนิดต่างๆนั้น ผมก็มีโปรแกรมวัคซีนในลูกสุนัขมาฝากกันครับ


อายุ                            
โปรแกรม
4-6 สัปดาห์        ถ่ายพยาธิและตรวจสุขภาพ
6-8 สัปดาห  วัคซีนรวม 5 โรค (โรคไข้หัด ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ เลปโตสไปโรซิสและหลอดลม     อักเสบติดต่อ) ครั้งที่ 1 และถ่ายพยาธิ 
10  สัปดาห์  วัคซีนรวม 5 โรค ครั้งที่ 2 และถ่ายพยาธิ
12  สัปดาห์  วัคซีนรวม 5 โรค ครั้งที่่ 3 และวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 1 ถ่ายพยาธิ
14  สัปดาห์  เริ่มป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ (ป้องกันทุกๆ 1.5 เดือน)
24  สัปดาห์  วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 2 และถ่ายพยาธิ                                                         
เมื่อหายห่วงเรื่องวัคซีนไปแล้ว อันดับต่อมา ก็คือ เรื่องที่นอนและอาหารการกิน


ด้านสิ่งของขั้นพื้นฐานที่เราควรเตรียมไว้ ก่อนที่จะรับสุนัขมาเลี้ยง มีดังต่อไปนี้

ที่นอน ของลูกสุนัข เมื่อรับเขามาเลี้ยงนั้น เราควรตระเตรียมที่นอนเอาไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว
บางคนใจดี ให้น้องหมานอนบนเตียงด้วยเลย ถ้าเป็นชิวาวาขนสั้นก็รอดตัวไป แต่ถ้าหากว่าเป็นชิวาวาขนยาวล่ะก็  เมื่อเราสูดอากาศเข้าไป ก็นำเอาขนของเขาเข้าไปในปอดของเราด้วย ส่งผลเสียต่อสุขภาพที่ตามมามากมาย หากต้องการให้เขานอนร่วมห้องกับเราจริงๆล่ะก็ ผมแนะนำให้กั้นที่เอาไว้สำหรับเขา
เอาเขาออกมาเล่นกับเรา แต่พอถึงเวลานอน ก็ให้เขาอยู่ในที่ของเขา เขาจะค่อยๆเรียนรู้ไปในตัว 
บางคนที่เปิดแอร์นอน อย่าลืมว่า ลูกสุนัขไม่ได้มีภูมิคุ้มกันมากเท่าเรา ดังนั้นควรหาเสื้อผ้าอุ่นๆให้เขา หาที่นอนให้เขาซุก หรือ หาผ้าให้เขาห่ม ให้เขานอนใต้แอร์จะยิ่งดีครับ

ตัวอย่าง คอกกั้นของลูกสาวผม น้องอลิซ




อาหาร เราควรถามเจ้าของเดิมครับ ว่าแรกเริ่มเลย เขาให้น้องหมาทานอาหารแบบไหน
ยี่ห้ออะไร (น้องหมาอายุสองเดือน ฟันยังขึ้นไม่ครบ หรือ อาจจะยังฟันไม่แข็งแรงพอ ควรให้ทานอาหารเปียก หรือไม่ก็ อาหารเม็ดแช่น้ำอุ่นจะดีที่สุดครับ เพราะผมเคยให้น้องหมาที่บ้านทานอาหารเม็ด ตั้งแต่อายุสองเดือน ทานไปได้สักพัก สำรอกออกมาเป็นเม็ดเลยครับ เพราะฟันเค้ายังไม่แข็งแรงพอที่จะย่อยอาหารเม็ดให้ละเอียดได้) และทางที่ดี เราควรจะให้อาหารยี่ห้อเดียวกันกับที่เจ้าของเดิมเคยให้ครับ 
หรือถ้าหากว่าเราต้องการเปลี่ยนอาหาร เราควรค่อยๆเปลี่ยนทีละนิด โดยการผสมระหว่างอาหารเดิมที่เขาเคยทานกับอาหารใหม่้ที่จะเปลี่ยน เพราะถ้าหากเปลี่ยนอาหารกระทันหัน อาจทำให้น้องหมาของเรา ท้องเสียหรือมีอาการป่วยได้ครับ อ้อ! และอาหารที่ให้ลูกสุนัขทาน เรื่องนี้ ห้ามเด็ดขาดเลยครับ 
ห้ามให้อาหารคนเด็ดขาด บางคนเห็นว่า คนกินได้ น้องหมาก็คงจะกินได้เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว
อาหารคนนี่แหล่ะครับ เป็นตัวให้น้องหมาเสียสุขภาพ และ อาจเสียชีวิตได้เลย
ถ้าหากให้ผมแนะนำยี่ห้ออาหารเม็ดที่ผมคิดว่าดีต่อลูกสุนัข ผมแนะนำยี่ห้อนี้เลยครับ


Royal Canin ราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่ไม่ปรุงรส ไม่ใส่สี น้องหมาขับถ่ายเป็นก่อน
และไม่มีคราบน้ำตา ยิ่งชิวาวา จะมีคราบน้ำตาง่าย ทานอาหารยี่ห้อนี้ จะไม่ค่อยมีคราบน้ำตาครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสุนัขบางตัวด้วย (ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ ฮ่าๆๆ แค่เห็นว่าดีเลยบอกต่อ)

#อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข 10 อย่าง สามารถติดตามได้ในบทความถัดไปครับ 


นม บางคนอยากให้สุนัขทาน ถามว่าได้ไหม? ได้ครับ แต่ต้องเป็นนมแพะกระป๋องสำหรับลูกสุนัขเท่านั้น ห้ามให้นมวัวเด็ดขาดครับ เพราะกระเพาะของลูกสุนัขไม่สามารถย่อยโมเลกุลของนมวัวได้ครับ
นมแพะจะดีกว่าเพราะมีโมเลกุลที่เล็กเทียบเท่ากับโมเลกุลของนมแม่หมา แต่นมแพะจะอยู่ได้ไม่นาน
หลังจากเปิดกระป๋อง แม้ว่าจะแช่ตู้เย็นเอาไว้ก็ตาม เราควรนับวันให้ดีครับ ว่าเปิดมากี่วันแล้ว 

ขนมทานเล่นสำหรับสุนัข ทานได้เหมือนกันครับ แต่ไม่ควรให้เยอะ ให้เป็นรางวัลเมื่อเขาทำความดีก็ได้ 
วันละ 1 ถึง 2 ชิ้น ก็พอ และขนมขบเคี้ยวพวกนี้อยู่ได้ไม่เกิน 7 วันเท่านั้นนะครับ ควรนับวันดีๆเช่นกัน

###และสำหรับชิวาวาแล้ว ภาวะน้ำตาลในเลือดเขาจะค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเวลาที่เค้าวิ่งเล่นเหนื่อยๆ เราควรเตรียมชงน้ำแดงไว้ให้เค้าทาน หรือ จะเป็นน้ำอุ่นผสมกลูโคสผงก็ได้ 

การขับถ่าย เราควรฝึกให้เขาขับถ่ายเป็นที่ตั้งแต่วันแรกที่รับมาครับ เวลาเห็นเขาทำท่าดมฟุดฟิด
เราก็อุ้มเข้าไปไว้ในที่ที่เราต้องการให้เป็นที่ขับถ่ายของเขาเลย จนเขาชิน เขาจะเริ่มรู้งาน
ใช้แผ่นรองฉี่ก็ได้ครับ หน้าตาแบบนี้




ใช้แล้วทิ้งได้เลย ไม่ต้องลำบากซัก ราคาไม่แพงครับ หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงทั่วไป
หรือจะใช้แผ่นรองฉี่แบบซักได้ก็ได้ครับ แล้วแต่ความสะดวก

ของเล่น ก็ควรมีให้เขานะครับ เขาจะได้ไม่เหงา ยิ่งถ้าเลี้ยงตัวเดียวแล้วด้วย จะเป็นตุ๊กตาผ้าก็ได้
เพราะถ้าเป็นตุ๊กตายาง สุนัขบางตัวอาจแพ้สารเคมีจากสีได้ครับ ให้ทีละตัวก็พอครับ
ไม่งั้นเขาจะเสียนิสัย มีแล้วไม่พอ อยากจะได้เพิ่มอีก 

เห็นไหมล่ะครับ ว่าการเลี้ยงดูลูกสุนัขสักตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ต้องใช้ความเอาใจใส่
และความละเอียดอ่อนอย่างมาก ไม่ต่างจากการเลี้ยงเด็กแรกเกิดสักคนหนึ่ง 
ดังนั้น ขอฝากเอาไว้ให้ได้คิด ว่าก่อนที่จะรับลูกสุนัขมาเลี้ยง ควรทำการศึกษา
และเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านให้ดีเสียก่อน หวังว่าอ่านบทความนี้แล้ว
จะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้นนะครับ 



Chihuahua Part 4 (ทีคัพ)

What is Tee-cup? 


จากที่ติดค้างกันไปเมื่อบทความที่แล้ว ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจ
เกี่ยวกับ ชิวาวา ขนาดเล็กจิ๋ว หรือที่เรียกกันว่า Tee-cup (ทีคัพ) ให้ทุกคนได้หายสงสัยกัน

สำหรับชิวาวาขนาดทีคัพ จริงๆ ตามมาตรฐานสายพันธุ์ของชิวาวาแล้วเนี่ย 
"ไม่มีนะครับ" เพราะขนาดทีคัพ ถือว่าเป็นขนาดที่ ไม่ได้มาตรฐาน
เป็นขนาดที่ผิดปกติ เป็นจุดด้อยของพันธุ์กรรม   และไม่สามารถเข้าร่วมประกวดได้

หลายๆคนคงสงสัยว่า ชิวาวาขนาดทีคัพมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน ง่ายๆเลยครับ 
ชิวาวาขนาดทีคัพเกิดจากการที่มีผู้เพาะพันธุ์ นำพ่อพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดกับแม่พันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดมาผสมกัน ทำให้ลูกที่ได้มีขนาดเล็กกว่าพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ และนำตัวที่เล็กที่สุดของคอกไปผสมต่อเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ชิวาวาขนาดเล็กยิ่งขึ้นไปอีก 

อย่างว่าล่ะครับ อะไรที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ย่อมมีราคาแพงเสมอ ของจิ๋ว ยิ่งจิ๋วก็ยิ่งแพง 
สุนัขก็เช่นเดียวกัน ยิ่งเล็กมากเท่าไหร ก็ยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น ทำให้หลายๆฟาร์ม
นิยมเพาะพันธุ์ชิวาวาขนาดทีคัพ เพื่อจำหน่ายในราคาที่แสนโหด บางฟาร์มราคา
50,000 Up จนถึง เป็นแสนก็มี แพงกว่าสุนัขนำเข้าซะอีก 

แน่นอนครับ ว่าข้อดีของเจ้าชิวาวาขนาดทีคัพก็คือ พกพาง่าย บางตัวตัวเล็กเท่าฝ่ามือ 
สามารถใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆ แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อย ตั้งแต่แรกเกิดก็ต้องเอาเข้าตู้อบกันแล้ว
เดิมที ชิวาวาเป็นสุนัขที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดน้อยอยู่แล้ว ยิ่งเป็นขนาดทีคัพ
ยิ่งน้อยไปใหญ่ เมื่อรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องหมั่นป้อนน้ำหวาน หรือ กลูโคสผงชงกับน้ำเสมอ
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าว เพราะเมื่อเกิดภาวะดังกล่าวแล้ว อาจทำให้ช็อคจนถึงขั้นเสียชิวิตได้
และนอกจากนี้ เมื่อตัวเล็กมากๆแล้ว ยังทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ร่างกายไม่แข็งแรง
แถมยังอายุสั้นอีกด้วย 

เห็นไหมล่ะครับ ว่าชิวาวาขนาดทีคัพ แม้ว่าจะมีข้อดีในเรื่องของความน่ารัก พกพาสะดวกแล้ว
ข้อเสียยังมีมากกว่าเยอะ ดังนั้น ควรคิดให้ดีๆก่อนรับมาเลี้ยงนะครับ ว่าเรามี่ความพร้อมจริงๆหรือเปล่า
และสามารถเลี้ยงดูเขาได้ดีพอหรือไม่ เพราะชิวาวาขนาดมาตรฐานก็เลี้ยงง่าย และน่ารักไม่แพ้กัน

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

Chihuahua Part 3 (ลักษณะสายพันธุ์)





This is me 







            หลายๆคนคงคิดว่า การเลือกสุนัขชิวาวาที่ได้มาตรฐานสักตัว จะไปยากอะไร??
ก็แค่ หัวเหม่ง หน้าสั้น ตาโปน ตัวเล็ก ก็เท่านั้น 
แต่...ความจริงแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เราควรพิจารณาก่อนรับชิวาวามาเลี้ยง
ถ้าหากอยากได้สุนัขที่สมบูรณ์ตรงตามมาตรฐาน โดยเราจะเริ่มกันที่ 
ลักษณะทั่วไปของชิวาวากันก่อน 

ลักษณะทั่วไป : 

สำหรับลักษณะทั่วไป แน่นอนครับ ว่าชิวาวา เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก รูปร่างสัดส่วนกระชับ 
วิธีเลือกชิวาวาตามมาตรฐานง่ายๆเลยก็คือ หัวกลมคล้ายทรงแอปเปิ้ลกลับหัว
ตาโปนแต่ไม่มาก หน้าสั้น บางตัวอาจจะถึงกับหน้าหักเลยก็ได้ ฟันสบกันพอดี ไม่เหยิน 
แต่รายละเอียดย่อยๆยังมีอีกมาก 


รายละเอียดของอวัยวะแต่ละส่วน (โดยละเอียด)






เครดิต : http://eeddy.exteen.com/20090904/entry

ศีรษะ กะโหลกศีรษะควรกลมคล้ายผลแอปเปิ้ลตั้งกลับหัว ชิวาวาจะมีจุด Soft Spot ที่กลางกะโหลก

หากลองจับดู จะเป็นรูบุ๋มที่กลางศีรษะ เมื่ออายุครบ 1 ปี กะโหลกจะปิด ได้เท่านั้นเท่านั้น 
อาจจะปิดสนิทหรือไม่สนิทก็เป็นได้ กะโหลกที่ปิดสนิท เรียกกะโหลกปิด กะโหลกที่ปิดไม่สนิท
เรียกกะโหลกเปิด ซึ่งกะโหลกเปิด ไม่ถือว่าผิดปกติหรือผิดมาตรฐานอะไร เพียงแต่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ควรได้รับการกระทบกระเทือนแรงๆ 


หู : ใบหูควรมีขนาดใหญ่ ปลายหูแหลม คล้ายค้างคาว โดยหูตั้งห่างจากกันทำมุม 45 องศากับ
กะโหลกศีรษะ (เมื่อแรกเกิดหรือตอนยังเล็ก หูของชิวาวาจะยังตกอยู่ ต้องให้อาหารเสริม ผมเคยให้
เจ้ากาก้าทานชีส สมัยที่หูยังไม่ตั้ง หรืออาจจะใช้วิธีการดามหูร่วมด้วยก็ได้ แต่สำหรับชิวาวาบางตัว เมื่อโตแล้ว หูอาจจะยังไม่ตั้งเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะ ใบหูหนัก ไม่ถือว่าผิดมาตรฐานครับ ชิวาวาหูตกก็น่ารักไปอีกแบบ)
ตา : ตาโตแต่ไม่ยื่นโปนออกมามากเกินไป ระยะห่างระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง ควรมีระยะที่พอดี
สำหรับสีของดวงตา ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำสนิท แต่สำหรับชิวาวาที่มีสีขนอ่อน อนุโลมให้ดวงตามีสีน้ำตาลได้ ไม่ถือว่าเป็นข้อบกพร่อง หรือในชิวาวาบางตัวที่มีสีขนอ่อน อาจพบว่ามีตาสีฟ้าหรือนัยน์ตาสองสี
ไม่ถือว่าเป็นข้อบกพร่องเช่นเดียวกัน

ฟัน : ฟันหน้าควรขสบกันได้สนิทเหมือนกรรไกร โดยฟันบนเกยอยู่ด้านนอก หากผิดไปจากนี้ถือว่า
เป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง เมื่อโตขึ้น อาจทำให้สุนัขชิวาวาของเราทานอาหารได้ลำบาก และ
มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน

หาง : ต้องยาวพอเหมาะ หางควรตั้งคล้ายหางดาบของสุนัขพันธุ์ไทย ในกรณีที่สุนัขมีหางม้วน อนุโลมให้ปลายหางม้วนแตะแผ่นหลังได้ แต่ห้ามเลยระดับแผ่นหลังลงมา และไม่ควรหางกุด เหมือนสุนัขพันธุ์มิเนเจอร์ที่นิยมตัดหางให้กุด ถือเป็นข้อบกพร่อง

ขาและเท้า : อุ้งเท้าควรมีขนาดเล็ก นิ้วเท้าแยกออกจากกัน แต่ไม่ถึงกับกางแบะออกเหมือนตีนเป็ด ซึ่งจะแตกต่างจากอุ้งเท้าของสุนัขพันธุ์อื่นๆ ซึ่งส่วนมากจะมีอุ้งเท้าที่กระชับ

นิสัย : ในส่วนของนิสัย ชิวาวาเป็นสุนัขมีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมากเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ ปกติเป็นสุนัขที่ไม่เห่า ไม่ค่อยส่งเสียงรบกวน (ทำให้บางคนสามารถแอบเลี้ยงในหอหรือแอบพาไปในที่สาธารณะได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำผิดกฏนะครับ เพราะกฏในการเลี้ยงสุนัข เลี้ยงแบบแอบซ่อนๆ เขาจะไม่มีความสุขหรอกครับ) เว้นแต่จะถูกรบกวนหรือทำให้ตกใจจึงจะเห่าเพื่อรักษาที่อยู่อาศัยของตัวเอง (แต่ไม่ควรทำให้สุนัขพันธุ์นี้ตกใจมากจนเกินไป  อาจทำให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิตได้) นอกจากนี้ยังมีนิสัยกล้าหาญมักจะยืนหยัดต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่า (จิ๋วแต่แจ๋วนะครับขอบอก) แต่เจ้าชิวาวา ก็มีอัธยาศัยดี ใจดี เข้ากับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้ง่าย 



ขนาด :

ในส่วนของขนาด จะมีขนาดทอยและทีคัพ
ขนาดทอย คือมาตรฐานปกติของสุนัขสายพันธุ์นี้
- ความสูงจะอยู่ที่ 16-20 (เซนติเมตร)
- น้ำหนักตัวจะอยู่ที่  2.5-2.7 (กิโลกรัม)

ส่วนของทีคัพ จะมีความสูง น้ำหนัก และขนาดลำตัวที่เล็กกว่ามาก 
น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่จะอยู่ที่ 1 กิโลกรัมกว่าๆเท่านั้น 





แต่! ชิวาวาขนาดทีคัพนั้น 

จัดเป็นชิวาวาที่ไม่ได้มาตรฐาน แถมยังไม่แข็งแรงอีกต่างหาก
ยังมีหลายๆคนที่ไม่ทราบ และนิยมหามาเลี้ยง
สามารถติดตามต่อได้ในบทความถัดไป


ขน :


- ชิวาวาพันธุ์ขนสั้น เส้นขนจะแนบติดลำตัวเป็นเงามันวาว

หากชิวาวาตัวโต จะมีขนขึ้นดกหนากว่าปกติ เพราะมีขนชั้นในด้วยไม่ถือว่าผิดมาตรฐาน 
เรียกว่า ขนสองชั้น นั่นเอง 

- ชิวาวาพันธุ์ขนยาว เส้นขนควรมีลักษณะอ่อนนุ่ม ขนเหยียดตรง หรือเป็นลอนเล็กน้อย แต่ห้ามหยิก ขนชั้นในจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขนที่บริเวณใบหูจะต้องยาว แต่ถ้าขนยาวและดกมากหนาเกินไปจนห้อยปรกลงมาครอบใบหู ควรตัดเล็มออก



สี : ของขนที่บริเวณหางควร มีสีกลมกลืนกับสีของขนบนตัว


ซึ่งโทนสีขขนองชิวาวาในปัจจุบัน มีมากมาย หลากหลายสี หลักๆ ได้แก่


สีช็อคโกแลต เรียกสั้นๆว่าสีช็อค (เป็นสีที่นิยมมาก) อาจจะเป็นสีช็อคขาวหรือช็อคครีม หรือสีน้ำตาลกระรอกก็ได้















โทนสีดำ อาจเป็นดำล้วน ดำขาว หรือแบล็คแทนก็ได้






โทนสีขาว






โทนสีครีม อาจมีมาร์คกิ้งสีขาวหรือสีอื่นด้วย







โทนสีบลูหรือสีเทา อาจเป็นเทาล้วน เทาขาว หรือ เทาครีมก็ได้






โทนสีเมอร์เร่ (เป็นสีที่หายากที่สุดและราคาสูงที่สุด)







อาจมีสีอื่นๆนอกเหนือจากนี้ก็ได้ และหากเป็นชิวาวาที่มีขนสองสีขึ้นไปนั้น จะมีสีพื้นและสีที่เรียกว่าเป็นมาร์คกิ้ง หากชิวาวาที่มีคิ้ว มีแก้ม มีสร้อยคอ อก ถุงเท้า หางดอก  เป๊ะตามสูตร ราคาจะยิ่งสูงตามไปด้วย

หลายๆคนมีความเข้าใจแบบผิดๆเกี่ยวกับการจ่ายลูกหรือให้ลูกของชิวาวา ยกตัวอย่างเช่น

หากพ่อพันธุ์สีขาวผสมกับแม่พันธุ์สีครีม ลูกที่เกิดมาจะต้องเป็นสีขาวล้วน สีครีมล้วน หรือสีขาวครีมเท่านั้น ซึ่งนั่นถือเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะลูกที่เกิด จะสามารถเป็นสีอะไรก็ได้ ลูกที่เกิด อาจเกิดมามีสีคล้ายกับปู่ย่าตาทวดของตระกูลก็เป็นได้