My feeling
"ถ้าหมาพูดได้ก็คงจะดี"
ผมเคยได้ยินประโยคข้างต้นจากคนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง ผมเองก็เคยคิดเหมือนกันนะ
ว่าถ้าหมาพูดได้ จะเป็นยังไง อาจจะเลี้ยงง่ายขึ้น อาจจะดูแลง่ายขึ้น อาจจะรีบพาเค้าไปรักษา
ได้ทันเวลา เมื่อเค้าป่วย เพราะเค้าสามารถพูดบอก ตอบโต้กับเราได้...แต่ในความจริง มันเป็นไปไม่ได้
ใช่ไหมล่ะครับ? ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ ก็คือ ศึกษาจากภาษากายนั่นเอง สุนัขทุกตัวจะมีภาษากาย
ที่ตีควา่มได้ในทำนองเดียวกัน เจ้าชิวาวาเองก็เช่นกัน ดังนั้น ใครที่เลี้ยงชิวาวาาอยู่ สามารถอ่าน
แล้วนำไปสังเกตพฤติกรรมของเด็กๆที่บ้านได้ ลองมาดูกันครับ
1. ทำตาแบ๊ว หูลู่ แสดงว่าทำความผิดมา แล้วขอร้องให้เราให้อภัย
2. นอนหงาย หากเล่นๆกันอยู่ แล้วเด็กๆที่บ้านล้มตัวลงนอนหงาย หมายถึงต้องการให้เกาพุง
3. ยึดตัวเกาะเจ้าของ หมายถึง รักนะเจ้านาย
4.เลียมือ แสดงว่า เจ้าหมาของเรากำลังเรียกร้องความสนใจ
5.กระดิกหาง แสดงว่า น้องหมากำลังอารมณ์ดี ประมาณว่า ชวนเล่น
6.ยืดตัว เป็นท่าทักทายเจ้าของ เค้ากำลังบอกเราว่า สวัสดีครับ/ค่ะ
7.หางชี้ เป็นอาการตื่นตัว พร้อมสู้
8.หางพับเข้าไปใต้ท้อง แสดงว่า น้องหมากำลังกลัว กังวลใจ หรือกลุ้มใจ
หรือจะสังเกตจากตาของน้องหมาก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น
ตาจ้องเขม็ง พร้อมกับแยกเขี้ยว เกร็งหน้า แสดงว่า น้องหมาอารมณ์ไม่ดี ไม่พอใจ
เบิ่งตาโตกร้าว พร้อมแยกเขี้ยว เป็นอาการพร้อมต่อสู้
ตาเหลือมองบน เป็นอาการหวาดหวั่น ไม่มั่นใจ ไม่คุ้นเคย
ตาเหลือบมองด้านข้าง คืออาการของน้องหมา ที่ระแวดระวังภัย
ตาปกติ พร้อมกระดิกหางเล็กน้อย แสดงว่าน้องหมา อารมณ์ดี สดใส
ตาเบิ่งโตเป็นประกาย อ้าปาก หูชี้ หางแหว่งเป็นกังหัน แสดงว่าน้องหมา กำลังตื่นเต้น ดีใจ
หรี่ตา หลบหน้า คืออาการของน้องหมา ที่รู้สึกผิด
ตากระพริบถี่ๆ คืออาการของน้องหมา ที่กำลังเครียด
หากเราลองสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้เรื่อยๆ เราก็จะคุ้นชิน จนจำได้ ว่าเมื่อน้องหมา
แสดงท่าทางแบบนี้ เค้าต้องการจะบอกอะไรเรา
เห็นไหมครับ? ไม่เห็นต้องพูดได้เลย แค่เราศึกษาภาษากายของเค้า เราก็จะเข้าใจเค้าได้เอง
อย่าลืมลองนำไปใช้กับเจ้าชิวาวาที่บ้านดูนะค้าบบบ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น